สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย

ประวัติการจัดตั้ง


     กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จัดตั้งขึ้นตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2527 โดยคณะรัฐมนตรี ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2527 ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุน ชุดที่ 1 ขึ้น โดยมีนายวิโรจน์ เลาหพันธ์ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะผู้แทนกระทรวงการคลังในขณะนั้นเป็นประธานกรรมการและมีสถานที่ทำการแห่งแรกอยู่ที่ชั้น 2 อาคารกรมสรรพากร (บางลำพู) การจัดตั้งกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายขึ้นมา รัฐบาลได้อนุมัติให้นำเงินจากกองทุนช่วยเหลือเก็บสต็อคพิเศษองค์การน้ำตาลระหว่างประเทศปี 2528 จำนวน 219,799,545.85 บาท มาเป็นทุนประเดิมในการดำเนินงาน

 

 

 

วิสัยทัศน์

" เป็นองค์กรสนับสนุนและรักษาเสถียรภาพอุตสาหกรรม

อ้อยและน้ำตาลทรายของไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน "

 

 

วัตถุประสงค์

     พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 มาตรา 23  ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งเรียกว่า "กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย" มีฐานะเป็นนิติบุคคล และให้มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
     1. สนับสนุน ส่งเสริม ศึกษา วิจัย และพัฒนา อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ให้เป็นไปตามนโยบายของประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน
     2. รักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อผลประโยชน์ของชาวไร่อ้อย โรงงาน และผู้บริโภค เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
     3. กระทำการอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกองทุน

 

คณะกรรมการบริหารกองทุน

มาตรา 24 ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการบริหารกองทุน” ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงการคลังหนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์หนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรมหนึ่งคน ผู้แทนสำนักงบประมาณหนึ่งคน ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทยหนึ่งคน ผู้แทนชาวไร่อ้อยสี่คน ผู้แทนโรงงานสี่คนและผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะกรรมการเสนอหนึ่งคน เป็นกรรมการ
      ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนเลือกกรรมการด้วยกันเป็นประธานกรรมการและรองประธานกรรมการตำแหน่งละหนึ่งคน
      ให้ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นเลขานุการคณะกรรมการบริหารกองทุน
      กรรมการตามวรรคหนึ่ง ต้องไม่ดำรงตำแหน่งกรรมการหรืออนุกรรมการในคณะกรรมการอื่นใดซึ่งตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้
      ให้นำมาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 มาตรา 14 มาตรา 15 และมาตรา 16 มาใช้บั
งคับโดยอนุโลม

 

หน้าที่ของคณะกรรมการบริหารกองทุน

มาตรา 25 คณะกรรมการบริหารกองทุนมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
     (1) ให้คำปรึกษาหรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการในเรื่องตามมาตรา 17 (27)
     (2) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในเรื่องต่าง ๆ ตามมาตรา 23
     (3) กำหนดระเบียบว่าด้วยการเก็บรักษา การหาผลประโยชน์และการใช้จ่ายเงินกองทุน
     (4) ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
     (5) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนด หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
     (6) บริหาร และควบคุมการปฏิบัติงานกองทุนให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
     การกำหนดตาม (2) และ (3) ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ
     ให้นำมาตรา 21 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม

 

สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย

มาตรา 25/1 ให้กองทุนมีสำนักงานเรียกว่า "สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย" มีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
     (1) ปฏิบัติงานธุรการของคณะกรรมการบริหารกองทุน
     (2) เก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการรับจ่ายเงินกองทุน
     (3) ดำเนินการต่างๆ ของกองทุนและประสานงานกับสำนักงาน คณะกรรมการและคณะกรรมการอื่นๆ ตามพระราชบัญญัตินี้
     (4) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการบริการกองทุนมอบหมาย

 

รายได้ของกองทุน

มาตรา 27 กองทุนประกอบด้วย
     (1) ค่าธรรมเนียมเพื่อการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย

     (2) ค่าธรรมเนียมเพื่อการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
     (3) เบี้ยปรับตามมาตรา 17 (25)
     (4) เงินที่ได้รับตามมาตรา 57
     (5) ดอกผลของกองทุน
     (6) เงินกู้
     (7) เงินและทรัพย์สินที่ได้รับมาเพื่อคุ้มครองและพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม
     (8) เงินและทรัพย์สินที่ได้รับจากการดำเนินงานของกองทุน
     (9) เงินและทรัพย์สินอื่นๆ ที่ตกเป็นของกองทุน

 

การใช้จ่ายเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
มาตรา 30
     เงินของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายให้นำมาใช้จ่ายได้เฉพาะ เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในมาตรา 23 และเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย และของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ตามที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายกำหนด รวมทั้งค่าตอบแทนต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 55 
     ภายในเดือนตุลาคมของทุกปี ให้คณะกรรมการบริหารกำหนด ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
      1. รายได้สุทธิตามมาตรา 54
      2. ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตอ้อย
      3. ต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตน้ำตาลทราย
      4. ราคาอ้อยขั้นต้น
      5. ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น
      6. เงินที่ได้รับจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
มาตรา 56
     ในกรณีที่ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้ายต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ให้กองทุนนำเงินตามมาตรา 27 (1) (2) และ (4) มาจ่ายชดเชยให้แก่โรงงานเท่ากับส่วนต่างดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

 

การจัดทำงบการเงินและรายงานผลการปฏิบัติงาน

มาตรา 31
      
ภายในเดือนเมษายนของทุกปี ให้คณะกรรมการบริหารกองทุน จัดทำงบดุลแสดงฐานะการเงิน โดยมีคำรับรองการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และทำรายงานแสดงผลการปฏิบัติงานเสนอต่อรัฐมนตรี
      ให้รัฐมนตรีจัดให้มีการประกาศงบดุลและรายงานตามวรรคหนึ่งในราชกิจจานุเบกษา